อรพงศ์ เทียนเงิน เดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ปรับองค์กร นำไมโครซอฟท์สู่โลกโมบายและคลาวด์

 |   Cheryl Yab

มุ่งนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความปลอดภัย สร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทย

อรพงศ์ เทียนเงิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
อรพงศ์ เทียนเงิน
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด

กรุงเทพฯ – 11 กันยายน 2558 – นายอรพงศ์ เทียนเงิน เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา โดยมีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อน     พันธกิจของไมโครซอฟท์ให้ประสบความสำเร็จ ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยสูงสุดจากไมโครซอฟท์มาเป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ทุกคนและทุกองค์กรบนโลกบรรลุผลสำเร็จยิ่งขึ้น (Empower every person and every organization on the planet to achieve more) พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารเวลาและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านการดำเนินธุรกิจ การทำงาน หรือการใช้ชีวิต ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มและสร้างบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการเพิ่มประสิทธิภาพที่ดีที่สุด บนโลกของโมบายและคลาวด์ (Mobile-first, Cloud-first)

ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ ได้ประกาศความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีใน 3 แนวทางสำคัญที่เชื่อมโยงกัน คือ การปฏิรูปการทำงานและกระบวนการสร้างประสิทธิภาพทางธุรกิจ (reinventing productivity and business processes) การพัฒนาคลาวด์อัจฉริยะ (building the intelligent cloud) และการสร้างเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคล (more personal computing)

“ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีของไมโครซอฟท์ในฐานะบริษัทไอทีระดับโลก เราได้พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีที่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงมากมายให้กับผู้คนบนโลกใบนี้ ปัจจุบันมีคนกว่า 1.5 พันล้านคนบนโลกที่ใช้ Windows ทุกวัน ประกอบกับการที่เราได้เข้าสู่โลกของโมบายและคลาวด์ วิสัยทัศน์ของไมโครซอฟท์ ได้มุ่งเน้นให้ไมโครซอฟท์เป็นกำลังสำคัญของทุกคนและทุกองค์กรในทุกมุมโลกให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของไมโครซอฟท์ คุณจะสามารถสร้างประสิทธิภาพในการทำงานไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดบนโลกแห่งนี้ด้วยระบบคลาวด์ที่มีความปลอดภัยและมีเสถียรภาพ สำหรับประเทศไทยนั้น ไมโครซอฟท์ได้ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 20 ปี โดยมุ่งนำเทคโนโลยีของเรามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ที่ประเทศไทย กำลังก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและดิจิทัลอีโคโนมี ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่เทคโนโลยีจะเข้ามีบทบาทในการทำให้คนและองค์กรพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพและก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ผมให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยเสริมศักยภาพให้กับคุณครู นิสิต นักศึกษา ประชาชน ด้วยการสานต่อนโยบายด้านการเรียนรู้และการศึกษาที่ไมโครซอฟท์ได้ดำเนินการมา ไม่ว่าจะเป็นโครงการฝึกอบรมทักษะไอทีให้กับคุณครู Partners in Learning หรือ We Speak Code ที่เปิดให้ผู้สนใจหรืออยากเป็นเจ้าของธุรกิจได้ศึกษาเรื่องการเขียน Code รวมไปถึง Imagine Cup สำหรับกลุ่มนิสิต นักศึกษา ซึ่งไมโครซอฟท์จัดต่อเนื่องมากว่า 10 ปี และตัวแทนจากประเทศไทยเคยคว้ารางวัลระดับโลกมาแล้วถึง 3 ครั้ง นำความภาคภูมิใจมาให้ทุกคน ท้ายที่สุดผมเชื่อว่าเมื่อรากฐานมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมไทย โดยรวมก็จะได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายอรพงศ์ กล่าว

ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ที่ไมโครซอฟท์ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ไมโครซอฟท์ มุ่งนำเทคโนโลยีสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับ       อรพงศ์ เขาจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่อง 1) การปฏิรูปการศึกษาซึ่งนับเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต ผ่านโครงการอย่าง พาร์ทเนอร์ อิน เลิร์นนิ่ง (Partners in Learning) หรือ      อิมเมจิ้น คัพ (Imagine Cup) ซึ่งไมโครซอฟท์ดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 10 ปี 2) การสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งรายได้คิดเป็น 37% ของจีดีพีของประเทศ เทคโนโลยี อย่าง คลาวด์ คอมพิวติ้ง จะสามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับธุรกิจรายย่อยของไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งไมโครซอฟท์ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่ดูแลธุรกิจเอสเอ็มอีโดยตรง อย่าง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสภาอุตสาหกรรม (FTI) ในการให้สมาชิกที่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอีทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงและได้รับการฝึกอบรมการใช้งาน ไมโครซอฟท์ คลาวด์ Office 365   รวมถึง สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI) ซึ่งมีสมาชิกกว่า 500 ราย ในการสนับสนุนและโปรโมตบริษัทซอฟต์แวร์รายย่อยในประเทศไทย ผ่านการฝึกอบรม ไมโครซอฟท์ คลาวด์ Office 365 นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้ร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน มีการฝึกอบรมทักษะไอทีให้กับแรงงานที่อยู่ในธุรกิจเอสเอ็มอี ไปแล้วกว่า 30,000 คน

ทั้งนี้ไอดีซีได้ระบุ หากธุรกิจเอสเอ็มอี มีการนำคลาวด์ไปใช้จะมีโอกาสเติบโตมากกว่า 10 % เมื่อเทียบกับธุรกิจขนาดเดียวกันถึง 1.7 เท่า 3) การนำเทคโนโลยีสู่ภาคสังคมเพื่อเพิ่มโอกาสและลดการเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยไมโครซอฟท์ ได้มีโครงการระดับโลกอย่าง ยูธสปาร์ค (YouthSpark) ที่เราได้นำมาดำเนินการในประเทศไทย โดยไมโครซอฟท์ได้ร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรไม่แสวงหากำไร นำเทคโนโลยีช่วยพัฒนาทักษะด้านไอทีให้กับเยาวชนไทย โดยในปัจจุบัน มีเยาวชนไทยกว่า 57,000 คนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ หลังจากที่เปิดตัวโครงการในประเทศไทยมา 3 ปี 4) การนำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างความมั่นคงและปลอดภัยให้กับสังคมไทย และการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการท่องเที่ยว ในการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ

###

 

ข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์

บริษัท ไมโครซอฟท์ (NASDAQ “MSFT”) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการ ซอฟต์แวร์ ดีไวซ์ และโซลูชั่นที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ใช้และองค์กรธุรกิจ

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536  มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้คุณภาพชีวิตคนไทย 70 ล้านคน ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์   ไมโครซอฟท์ ส่งเสริมให้คนไทยและภาคธุรกิจได้ตระหนักถึงศักยภาพที่มีอย่างเต็มเปี่ยมผ่านการใช้เทคโนยี เทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการทำงาน การใช้ชีวิต และการสื่อสาร ไมโครซอฟท์ให้บริการซอฟต์แวร์ บริการ และดีไวซ์ ที่สามารถก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ มีความสะดวกทันสมัย และช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไมโครซอฟท์ ไม่หยุดนิ่งในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตร อย่างต่อเนื่องในการนำพลังของเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปเยี่ยมชมหรือติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ทางศูนย์ข่าวสารประเทศไทย https://news.microsoft.com/th-th-stage/ และทวิตเตอร์ @MicrosoftTH

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ

คุณพรรวี สุรมูล

ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์ ประเทศไทย

โทรศัพท์: 0-2627-3501 ต่อ 110 หรือ 081-735-9213

อีเมล: [email protected]