พันล้านโอกาส เพื่อนักพัฒนาชาวไทย พร้อมก้าวสู่ความสำเร็จอย่างไร้ขีดจำกัด

 |   Cheryl Yab

นางสาวศิริพร พัชรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด

Siriporn Pajharawat, Developer Experience Director, Microsoft Thailandเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา โลกของเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของวินโดวส์ (a new Windows era) อย่างเต็มตัว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ ได้เปิดตัวดีไวซ์ใหม่ๆ บนวินโดวส์ 10 ไม่ว่าจะเป็น Surface Pro 4, Surface Book, Lumia และ Microsoft Band สร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก และภายในงาน ไมโครซอฟท์ยังได้ประกาศว่ามีดีไวซ์มากกว่า 110 ล้านแล้วที่ใช้วินโดวส์ 10 นอกจากนี้ ยอดการเข้าวินโดวส์ สโตร์ มีมากถึง 1.25 พันล้านครั้ง

สถิติที่น่าทึ่งเหล่านี้ถือเป็นก้าวแรกของไมโครซอฟท์ในการก้าวเดินสู่เป้าหมายที่จะมีดีไวซ์ที่อยู่บนวินโดวส์ 10 รวมกว่าพันล้านเครื่องทั่วโลกภายในเวลา 2-3 ปีข้างหน้า และยังเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโอกาสมากมายที่รอวันให้นักพัฒนาแอพชาวไทยได้ไขว่คว้า

จากการสำรวจความเห็นของนักพัฒนาแอพใน 8 ประเทศเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย พบว่ามีนักพัฒนากว่า 78% ที่มีความสนใจที่จะพัฒนาแอพสำหรับวินโดวส์ 10 ซึ่งใช้งานได้ทั้งบนพีซี สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์ประเภทสวมใส่ ทั้งยังรองรับการออกแบบแอพให้ใช้งานร่วมกันได้กับระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ ทั้งหมดนี้ทำให้วินโดวส์ 10 เป็นช่องทางที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาแอพชาวไทยที่ต้องการก้าวสู่ความสำเร็จในระดับโลก ซึ่งวินโดวส์ได้ทะลายแนวคิดข้อจำกัดในเรื่องรูปแบบดีไวซ์และระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน และทำให้การพัฒนาแอพง่ายขึ้นกว่าที่เคย

เราเชื่อว่านักพัฒนาไม่ควรต้องมาสนใจว่าจะเลือกพัฒนาเว็บแอพ แอพมือถือ แอพบนพีซี หรือแม้แต่เลือกระบบปฎิบัติการว่าจะเป็นวินโดวส์ แอนดรอยด์ หรือไอโอเอส เพราะในอนาคต การพัฒนาแอพควรจะต้องเปิดกว้าง รองรับทุกแพลตฟอร์มได้อย่างเท่าเทียมกัน

การจะเชื่อมโยงให้ดีไวซ์และแพลตฟอร์มเหล่านี้ผสานกันเป็นหนึ่งเดียวได้ จะต้องมีกลไกหรือเครื่องมือที่เปรียบได้กับสะพานที่เชื่อมโยงให้เราเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย โดยไมโครซอฟท์ได้พัฒนาชุดเครื่องมือ วินโดวส์ บริดจ์ (Windows Bridge toolkits) ขึ้น เพื่อให้นักพัฒนาสามารถนำโค้ดจากแอพแอนดรอยด์หรือไอโอเอสข้ามมาพัฒนาบนแพลตฟอร์มวินโดวส์ได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถปรับแต่งหรือเสริมคุณสมบัติให้แอพทำงานได้ร่วมกับวินโดวส์ได้เต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็น Live Tile ระบบการแจ้งเตือนผู้ใช้ หรือการซื้อของเพิ่มเติมภายในแอพ ผ่านทางวินโดวส์ สโตร์

เมื่อปรับแต่งแอพจนสมบูรณ์แล้ว ขั้นตอนสุดท้ายก็คือการนำแอพออกสู่ตลาด ผ่านทางวินโดวส์ สโตร์ ซึ่งรองรับ ดีไวซ์วินโดวส์ทุกรูปแบบ ทั้งพีซี แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน อุปกรณ์สวมใส่ เครื่องเกมคอนโซล หรือแม้แต่ชุดแว่น โฮโลกราฟฟิก ซึ่งเมื่อนับรวมทั้งหมดแล้ว อาจมีจำนวนสูงถึงพันล้านเครื่องในอนาคต จึงเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการสร้างรายได้ และยังช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาแอพได้อีกด้วย

ปัจจุบัน การพัฒนาซอฟต์แวร์นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของระบบเศรษฐกิจดิจิตัลในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทอัพเกิดใหม่ที่เน้นการพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นธุรกิจหลัก หรือบริษัทที่มุ่งพัฒนาแอพเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของธุรกิจเอสเอ็มอี ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยทุกคนสามารถมีส่วนร่วมสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิตัลให้เติบโตไปได้ด้วยความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งหากเราสามารถช่วยกันสร้างเศรษฐกิจดิจิตัลได้สำเร็จ จะสามารถสร้างรายได้เป็นสัดส่วนสูงถึง 30% ของ GNP (หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ) ในปี 2563[1]

ด้วยความนิยมที่เพิ่มมากขื้นของสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์พกพา พร้อมด้วยเทคโนโลยีโมบาย บรอดแบนด์ และการพัฒนาระบบเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ[2] เป็นที่คาดการณ์กันว่าตลาดซอฟต์แวร์ในเมืองไทยจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และเราเชื่อว่าโลกเทคโนโลยีแห่งอนาคตจะเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งนักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์แอพใหม่ที่ใช้งานได้กับทุกแพลตฟอร์มโดยปราศจากข้อจำกัด

สำหรับไมโครซอฟท์แล้ว การมีดีไวซ์วินโดวส์พันล้านเครื่องบนโลกนี้ มีความสำคัญมากกว่าการบรรลุเป้าหมายของเรา แต่เป็นการบุกเบิกสร้างโอกาสและช่วยปลดล็อกศักยภาพการสร้างสรรค์ของนักพัฒนาทั่วโลก รวมถึงนักพัฒนาชาวไทยได้ออกมาอย่างเต็มที่ เพื่อนำพาประเทศไทยเข้าสู่โลกยุคดิจิตัลได้อย่างเต็มภาคภูมิ

##

 ข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์

บริษัท ไมโครซอฟท์ (NASDAQ “MSFT”) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการ ซอฟต์แวร์ ดีไวซ์ และโซลูชั่นที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ใช้และองค์กรธุรกิจ

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536  มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้คุณภาพชีวิตคนไทย 70 ล้านคน ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ ไมโครซอฟท์ ส่งเสริมให้คนไทยและภาคธุรกิจได้ตระหนักถึงศักยภาพที่มีอย่างเต็มเปี่ยมผ่านการใช้เทคโนยี เทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการทำงาน การใช้ชีวิต และการสื่อสาร ไมโครซอฟท์ให้บริการซอฟต์แวร์ บริการ และดีไวซ์ ที่สามารถก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ มีความสะดวกทันสมัย และช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไมโครซอฟท์ ไม่หยุดนิ่งในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตร อย่างต่อเนื่องในการนำพลังของเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ทางศูนย์ข่าวสารประเทศไทย https://news.microsoft.com/th-th-stage/ และทวิตเตอร์ @MicrosoftTH

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ (สำหรับสื่อมวลชน)

คุณพรรวี สุรมูล

ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์ ประเทศไทย

โทรศัพท์: 0-2627-3501 ต่อ 127 หรือ 086 980 6551

อีเมล: [email protected]

[1] IDC

[2] IDC