เทคโนโลยีและบริการของไมโครซอฟท์จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับนักพัฒนาในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการเติบโตให้กับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ และช่วยเปลี่ยนชีวิตผู้คน
กรุงเทพฯ 25 พฤษภาคม 2559 – นายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอ ไมโครซอฟท์ ได้ประกาศยืนยันถึงความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ที่จะสนับสนุนและสร้างศักยภาพให้กับชุมชนนักพัฒนาในประเทศไทย ภายในงาน Thailand Developer Day ซึ่งมีนักพัฒนาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน และมีการถ่ายทอดสดไปยังผู้ชมที่ลงทะเบียนเข้าชมกว่าหลายพันคน
งาน Thailand Developer Day ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกของนายนาเดลลา ในฐานะซีอีโอตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โดยในงานได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีคลาวด์อย่าง ผสมผสานว่าสามารถช่วยให้ธุรกิจต่อยอดและเติบโตในอนาคตได้อย่างไร
นายนาเดลลา กล่าวย้ำว่า ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกของโมบายและคลาวด์ (Mobile-first, cloud-first world) นักพัฒนาได้กลายมาเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลสู่องค์กรเพื่อพลิกโอกาสทางธุรกิจ
ระหว่างอยู่ที่กรุงเทพฯ นายนาเดลลา ได้มีโอกาสพบปะกับสตาร์ทอัพแถวหน้าของประเทศไทย และได้แบ่งปันวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเทคโนโลยีในอนาคตและบทบาทของเทคโนโลยีในการช่วยขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ
“ภารกิจของไมโครซอฟท์ คือ การเป็นกำลังสำคัญให้ทุกคนและทุกองค์กรทั่วทุกมุมโลกให้บรรลุผลสำเร็จที่ดียิ่งกว่า” นายสัตยา นาเดลลา กล่าว “การที่เราจะบรรลุภารกิจนี้ได้ ไมโครซอฟท์จะสนับสนุนนักพัฒนาทุกคนในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มที่ช่วยให้พวกเขาปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์เพื่อออกไปเปลี่ยนโลกใบนี้”
นายอรพงศ์ เทียนเงิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “ไมโครซอฟท์ มีความภูมิใจที่ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับนักพัฒนาไทย ผ่านแพลตฟอร์มและโครงการต่างๆ ของเรา ไมโครซอฟท์ได้มอบศักยภาพให้กับนักพัฒนาในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อช่วยให้พวกเขารวมถึงผู้อื่นบรรลุผลสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น ประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความสามารถอยู่เป็นจำนวนมาก จะเห็นได้จากความสำเร็จของทีมนักศึกษาไทย ถึง 3 ทีมที่เคยชนะการแข่งขันการพัฒนาแอพพลิเคชั่นระดับโลกของไมโครซอฟท์หรือ Imagine Cup มาแล้ว เรามีความภูมิใจที่ได้สนับสนุนพวกเขาให้ก้าวข้ามขีดความสามารถเดิมได้”
สตาร์ทอัพที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ จะได้รับโอกาสให้เข้าถึงคลาวด์แพลตฟอร์มอันทรงพลังของไมโครซอฟท์ รวมไปถึงเครื่องมือสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ ผ่านโครงการบิซสปาร์ค (BizSpark) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเชื่อได้ว่าจะช่วยทำให้ฝันของพวกเขาเป็นจริงได้ ปัจจุบัน มีสตาร์ทอัพในประเทศไทยกว่า 400 ราย ที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการนี้เพื่อตั้งต้นการสร้างธุรกิจและนวัตกรรมของพวกเขา ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการสนับสนุนรวมกว่า 4 ล้านบาท จากการใช้งานไมโครซอฟท์ คลาวด์ อาชัวร์ (Azure) เครื่องมือพัฒนาต่างๆ และการสนับสนุนทางเทคนิคโดยทีมงานไมโครซอฟท์
จากปีงบประมาณปัจจุบันของไมโครซอฟท์ ตั้งแต่กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ได้มอบ BizSpark Plus จำนวน 12 รางวัล มูลค่า 1.44 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราว 49 ล้านบาท) ให้กับสตาร์ทอัพดาวรุ่งของไทยหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็น WashBox24, Skootar, Priceza, Dreamio และ Peng Brothers
“นอกจากนี้ ยังมีสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว อย่าง Buzzebees ที่มีแพลตฟอร์มในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 16 ล้านคน หรือ BentoWeb โดย Semantic Touch ที่มีโซลูชั่นด้านอีคอมเมิร์ซซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคโซเซียลที่โลกได้หมุนไปอย่างรวดเร็ว หรือ Ookbee ที่ให้บริการแพลตฟอร์มสิ่งพิมพ์ดิจิทัล หรือ e-book ทั้งหมดนี้ล้วนแสดงให้เห็นว่าพลังของคลาวด์ช่วยเพิ่มขีดความสามารถและสร้างโอกาสให้กับธุรกิจในประเทศไทย อีกทั้งยังทำให้ธุรกิจขยายได้อย่างรวดเร็วไร้ขีดจำกัด” นายอรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติม
งาน Thailand Developer Day ในครั้งนี้ ต่อยอดมาจากงาน Build 2016 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ณ เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งในงานครั้งนั้นไมโครซอฟท์ได้แนะแนวทางการพัฒนาใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับเหล่านักพัฒนาทั่วโลก
แพลตฟอร์มอย่าง Universal Windows ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงอุปกรณ์วินโดวส์ 10 ที่มีอยู่มากกว่า 300 ล้านเครื่อง ในหลากหลายรูปแบบ ด้วยแอพพลิเคชั่นที่มอบประสบการณ์เดียวกันไม่ว่าจะอยู่บนอุปกรณ์รูปแบบใด นอกจากนี้ Visual Studio ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของไมโครซอฟท์สำหรับการเขียนแอพพลิชั่น ในขณะนี้สามารถผสานเข้ากับ Xamarin โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือส่งมอบประสบการณ์จากแอพพลิเคชั่นดั้งเดิมได้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะใช้บนแพลตฟอร์มใด ผ่านการเขียนโค้ดเพียงครั้งเดียว
ด้วยจำนวนศูนย์ข้อมูล ที่ครอบคลุม 30 ภูมิภาคทั่วโลก ไมโครซอฟท์ อาชัวร์ ช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอพพลิเคชั่นอันชาญฉลาดที่ใช้งานได้กับอุปกรณ์ใดก็ได้ Azure IoT Suite เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสร้างโซลูชั่นอันชาญฉลาดที่เชื่อมต่อ จัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลที่มาจากสิ่งต่างๆ รอบตัวเรา
แพลตฟอร์มล่าสุด ที่ไมโครซอฟท์ได้ค้นพบ คือ conversation as a platform ได้แรงบันดาลใจมาจากกระบวนการสื่อสารตามธรรมชาติของมนุษย์ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ทำให้การพูดได้กลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ทำให้เทคโนโลยีส่งมอบศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้นให้กับมนุษย์
หนึ่งในภารกิจของไมโครซอฟท์ ในการเป็นกำลังสำคัญให้ทุกคน และทุกองค์กรกรบนโลกนี้บรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น คือ การที่ไมโครซอฟท์ช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอพพลิเคชั่นที่มีประสิทธิภาพหรือสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลกในวันนี้และวันพรุ่งนี้ ไมโครซอฟท์ นับเป็นผู้ให้บริการคลาวด์เพียงรายเดียวที่ให้การสนับสนุนทุกองค์กรและนักพัฒนาทุกคน ในทุกระดับและทุกแพลตฟอร์ม และไมโครซอฟท์พร้อมอย่างเต็มที่ที่จะมอบพลังแห่งทางเลือกให้กับนักพัฒนาไม่ว่าจะอยู่ที่ใด