ความสำเร็จของลูกค้าจากความร่วมมือของพันธมิตรเป็นหัวใจแห่งความสำเร็จของเรา
กรุงเทพฯ 17 ธันวาคม 2561 – บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดยนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ ร่วมฉลองความสำเร็จของพันธมิตรทางธุรกิจ ในงาน Microsoft Thailand Inspire 2018 พร้อมมอบรางวัล Partner of The Year จำนวน 12 สาขา และรางวัลพิเศษประจำปี คือ Partner Recognition อีก 4 สาขา ให้แก่พันธมิตรที่ประสบความสำเร็จในการนำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงในยุคของดิจิทัล และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างโดดเด่น
ไอดีซีประเมินมูลค่าการปฏิรูปธุรกิจในโลกดิจิทัลเอาไว้ที่ 20 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นมูลค่าที่มากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของโลกถึง 20 เปอร์เซ็นต์ โดยภายในสิ้นปี 2562 คาดการณ์ว่าองค์กรทั่วโลกจะใช้จ่ายในโครงการด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นเงินจำนวนราว 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ[1] และพันธมิตรจะมีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการสนับสนุนการปฏิรูปธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ที่ให้ความสำคัญกับคู่ค้าเป็นอันดับหนึ่งเสมอมา
ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงโอกาสของเครือข่ายพันธมิตรของไมโครซอฟท์ในการช่วยลูกค้าของเราและประเทศไทยขับเคลื่อนการปฏิรูปธุรกิจด้วยดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งตอกย้ำให้เราปฏิรูปธุรกิจด้วยดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบ มีศีลธรรมและครอบคลุมในทุกๆ ด้าน
เฉลิมฉลองความสำเร็จของพันธมิตร
สำหรับในปี 2561 นี้ เป็นปีแรกที่ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย มอบรางวัล Partner of The Year 2018 จำนวนมากที่สุดถึง 12 สาขา ทั้งยังมีรางวัลพิเศษ Partner Recognition 2018 อีก 4 สาขา โดยรางวัลที่ได้รับแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของพันธมิตรที่สามารถนำนวัตกรรมและโซลูชันของไมโครซอฟท์มาปรับใช้เพื่อตอบสนองกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด ให้ลูกค้าสามารถรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้นำดิจิทัลเข้ามาพลิกโฉมธุรกิจ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การที่พันธมิตรนำเสนอโซลูชันที่มีความแตกต่าง ที่จะนำพาธุรกิจของลูกค้าให้ล้ำหน้าคู่แข่งได้
ทั้งนี้เกณฑ์การตัดสินยังประกอบกันในอีกหลายด้าน อาทิ จำนวนลูกค้ารายใหม่ ๆ ยอดจำหน่ายสินค้า การนำโซลูชั่นต่างๆ ไปใช้งานได้จริงของลูกค้า ความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของไมโครซอฟท์ การปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีและโซลูชั่นไปสู่คลาวด์ การผสมผสานเทคโนโลยีคลาวด์ในการให้บริการลูกค้า การให้บริการคลาวด์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ความพึงพอใจของลูกค้าที่อยู่ในเกณฑ์สูงและมีความต่อเนื่อง และจากความคิดเห็นของพนักงานของไมโครซอฟท์ เป็นต้น
บริษัทที่ได้รับรางวัล Partner of The Year 2018 ในทั้ง 12 สาขา ได้แก่
- Modern Workplace – บริษัท เอ็มเวิร์จ จำกัด ในเครือของกลุ่มบริษัท G-ABLE
- Applications and infrastructure- บริษัท เอ็มเวิร์จ จำกัด ในเครือของกลุ่มบริษัท G-ABLE
- Data and AI – บริษัท เอ็มเอฟอีซี จำกัด (มหาชน)
- Business Applications – บริษัท ภัทร โปรเกรส จำกัด
- Solutions Innovation – Data & AI – บริษัท ดิจิตอล ไดอะล็อก จำกัด
- Solutions innovation – Business Applications – บริษัท อินโนวิซ โซลูชั่นส์ จำกัด
- ISV – บริษัท ดิจิตอล ไดอะล็อก จำกัด
- Microsoft Distribution – บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด
- Microsoft Licensing Solution – บริษัท เอ็มเวิร์จ จำกัด ในเครือของกลุ่มบริษัท G-ABLE
- Microsoft Cloud Solution Provider – บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด
- Best SMB Reseller – บริษัท ภัทร โปรเกรส จำกัด
- Surface – บริษัท ไซเฟอร์เมด จำกัด
บริษัทที่ได้รับรางวัล Partner Recognition 2018 ในทั้ง 4 สาขา ได้แก่
- Engage Customers – บริษัท แอคเซนเจอร์ ประเทศไทย
- Empower Employees – บริษัท ฟรอนทิส จำกัด
- Transform Products – บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด
- Optimize Operations – บริษัท เทอร์ราไบท์ เน็ท โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)
พันธกิจของไมโครซอฟท์ คือ การเป็นกำลังสำคัญให้ทุกคนและองค์กรบนโลกประสบความสำเร็จได้มากกว่า และพันธมิตรก็มีส่วนทำให้เราบรรลุพันธกิจดังกล่าว นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าว “ในปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ก้าวไปข้างหน้าด้วยการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก ผ่านการให้บริการโซลูชั่นให้กับลูกค้าที่เหมาะสม ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมกับทุกคน ต้องขอขอบคุณคู่ค้าพันธมิตรทุกท่านที่สนับสนุนและร่วมสร้างความสำเร็จมาด้วยกัน สำหรับปีนี้นวัตกรรมที่จะเข้ามากำหนดทิศทางในอนาคตของธุรกิจทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคคือ AI และ IoT ที่จะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพของลูกค้าให้ไปได้ถึงขีดสูงสุด ผ่านการยกระดับเครือข่ายพันธมิตรให้นำ AI มาใช้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์จะทำให้เราและพันธมิตรสามารถเติบโตและตอบโจทย์ลูกค้าไปได้ด้วยกันเป็นอย่างดี”
และเพื่อช่วยให้พันธมิตรสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้นและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในช่วงเวลาที่เหมาะสม ไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือในรูปแบบที่เป็นประโยชน์กับทั้งลูกค้าและพันธมิตร ในปีนี้ไมโครซอฟท์จึงได้มีการเปิดตัวโปรแกรมและเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะช่วยคู่ค้าในการสร้างสรรค์ เติบโต และสร้างความแตกต่างในธุรกิจ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมและความร่วมมือ พร้อมยึดหลักในวัฒนธรรมการทำงานที่คำนึงถึงพันธมิตรเป็นสำคัญ
นำเสนอนวัตกรรมผ่านแอปและบริการต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์แอปหรือบริการ ไมโครซอฟท์เข้าใจดีว่าพันธมิตรต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดจากไมโครซอฟท์ รวมถึงคำแนะนำในการต่อยอดจากเทคโนโลยีนั้น เพื่อสร้างโซลูชั่นที่ปรับให้เหมาะสมตามความต้องการของลูกค้าได้
ไมโครซอฟท์จึงได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ใน Microsoft 365 รวมถึงการทำงานในรูปแบบที่ไม่มีค่าใช้จ่ายของ Microsoft Teams โซลูชั่นสำหรับการทำงานเป็นทีม หรือ Workplace Analytics และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่เกี่ยวกับคลาวด์ แอป และโซลูชั่นประมวลผลข้อมูล รวมถึง Azure Data Box Disk, Azure Virtual WAN, Azure Firewall และอื่นๆ ซึ่งไมโครซอฟท์ตั้งใจนำเสนอให้พันธมิตรได้รับผลประโยชน์จากข้อเสนอใหม่ๆ เพื่อช่วยลูกค้าในการบุกเบิกและนำนวัตกรรมใหม่ไปใช้ในสถานที่ทำงานยุคใหม่ และเสริมประสิทธิภาพการทำงานเพื่อเตรียมพร้อมการเปลี่ยนแปลงการทำงานสู่ระบบคลาวด์
เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นเพื่อนำเสนอโซลูชั่น
ในไตรมาสที่ 3 รายได้ของไมโครซอฟท์ อาซัวร์เติบโตขึ้น 93 เปอร์เซ็นต์[2] ซึ่งพันธมิตรมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตนี้ และเพื่อต่อยอดจากอัตราการเติบโตที่ยอดเยี่ยม ไมโครซอฟท์จึงได้นำเสนอ 2 แนวทางใหม่ที่จะช่วยผลักดันการเติบโตของพันธมิตร ได้แก่ การให้ความสำคัญกับ Marketplaces และพัฒนา AppSource ให้เป็นจุดเริ่มต้นของการขายกับไมโครซอฟท์ และเพิ่มประโยชน์เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตแก่พันธมิตร
ความสามารถใหม่ๆ ของ Marketplace ที่พร้อมให้บริการแล้วในวันนี้ ประกอบด้วยโซลูชั่นแบบผสมผสานเพื่อพันธมิตรแบบครบวงจร ข้อเสนอแบบส่วนตัว และการขยายบริการให้คำปรึกษา ความสามารถใหม่ทั้งหมดนี้ช่วยให้พันธมิตรสามารถหาวิธีการใหม่ๆ ในการนำเสนอโซลูชั่นให้แก่ฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ขึ้น และมอบประสบการณ์การซื้อที่ดียิ่งขึ้นให้พวกเขาได้สำเร็จ เพื่อส่งเสริมให้พันธมิตรเชื่อมต่อกับลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังนำเสนอความยืดหยุ่นที่ยอดเยี่ยมและโอกาสที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างประโยชน์ครั้งใหม่ที่ช่วยพันธมิตรในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในตลาด ภายในสิ้นปีนี้ พันธมิตรที่มีศักยภาพจะมีโอกาสเลือกแพ็กเกจผลประโยชน์ตามเป้าหมายเชิงธุรกิจ ไมโครซอฟท์มีความมุ่งมั่นในการขยายผลประโยชน์หลัก เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการต่างๆ ที่สนับสนุนการก่อให้เกิดความสนใจในการซื้อสินค้า การผลักดันให้มีแรงจูงใจซื้อสินค้าเร็วยิ่งขึ้น และการเพิ่มอัตราการปิดการขายสำหรับข้อเสนอบริการและแอปต่างๆ
มุ่งสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งเพื่อดึงดูดลูกค้า
ไมโครซอฟท์รับฟังความคิดเห็นจากพันธมิตรที่กล่าวว่าความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านคือปัจจัยสำคัญของการเติบโต แนวคิดนี้เป็นพื้นฐานของคำแนะนำในการสร้างผลกำไรของไมโครซอฟท์ที่มอบให้แก่พันธมิตร ซึ่งพันธมิตรหลายองค์กรได้ยึดถือแนวคิดนี้อย่างจริงจัง ไมโครซอฟท์จึงได้เปิดโอกาสครั้งใหม่ให้พันธมิตรได้แสดงความเชี่ยวชาญกับลูกค้า ด้วยการแนะนำความเชี่ยวชาญแบบเฉพาะเจาะจงอันล้ำสมัยครั้งใหม่ และ Microsoft Azure Expert MSP initiative ในปัจจุบัน พันธมิตรสามารถแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าพวกเขามีความสามารถที่เหมาะสมที่จะช่วยลูกค้าก้าวข้ามความท้าทายเชิงธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงได้สำเร็จ
[1] https://blogs.partner.microsoft.com/mpn/digital-transformation-ebook-series/
[2] https://blogs.microsoft.com/blog/2018/07/12/inspire-2018-opening-doors-for-partner-innovation-growth-and-differentiation/