เอไอเอสยืนหยัดเคียงข้างชีวิตยุคดิจิทัล เน้นย้ำความสำคัญของการเตรียมพร้อม เพื่อสร้างความยืดหยุ่นทั่วทั้งธุรกิจ พร้อมส่งมอบบริการให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

People working remotely and with social distancing

ในฐานะผู้นำ Digital Life Service Provider อันดับหนึ่งของประเทศไทย เอไอเอสมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงทุกคนและทุกองค์กรทั่วไทยให้ยังสามารถเข้าถึงกันและกันได้ ในสภาวะที่การเดินทางมาพบปะกันไม่สามารถทำได้เช่นเดิม ด้วยเหตุนี้เอง การเสริมความยืดหยุ่นเพื่อให้ธุรกิจของเอไอเอสยังเดินหน้าต่อได้อย่างราบรื่น ควบคู่กับความปลอดภัยในชีวิตพนักงาน จึงเป็นสิ่งที่เอไอเอสให้ความสำคัญมาเป็นลำดับแรก

เอไอเอสได้ตัดสินใจประกาศนโยบายให้พนักงานกว่า 12,000 คน ทำงานจากที่บ้านในวันที่ 21 มีนาคม และเลือกใช้โปรแกรมสื่อสารอัจฉริยะ ไมโครซอฟท์ ทีมส์ (Microsoft Teams) แพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์กลางของการทำงานร่วมกันในโลกดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริการ Office 365 มาเป็นเครื่องมือในการเชื่อมโยงคนเอไอเอสให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างต่อเนื่องและคล่องตัว เพื่อร่วมขับเคลื่อนและส่งมอบบริการให้กับลูกค้าได้อย่างไม่มีสะดุด

Woman in dark suit“สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้ Environment รอบตัวเราเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับการประกาศเปลี่ยนแปลงให้พนักงานทำงานจากที่บ้านก็เกิดขึ้นอย่างฉับพลันเหมือนกัน แต่นั่นก็มิได้เป็นปัญหาหรืออุปสรรคต่อการ ทำงานของพนักงานเลยแม้แต่น้อย เพราะเราได้เตรียมความพร้อมล่วงหน้าภายใต้แผนงานเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP-Business Continuity Plan) ของเราแล้ว” นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าว และว่า “การดำเนินการตามแผน BCP เราได้เตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ซึ่งรวมถึงการติดต่อสื่อสารของพนักงานระหว่างทำงาน โดยได้ Implement โปรแกรม Office 365, ไมโครซอฟท์ ทีมส์ และไมโครซอฟท์ วันไดรฟ์ เข้ามาใช้งานในองค์กรอย่างทั่วถึงตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 เพื่ออำนวยความสะดวกการทำงานร่วมกันเป็นทีม เสริมความแข็งแกร่งให้ทุกทีมมีความยืดหยุ่น พร้อมให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะและความเข้าใจในเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญที่มีอยู่เดิม จากการที่เราได้เข้าไปช่วยติดตั้งและวางระบบให้กับลูกค้าองค์กรมาก่อน

โดยพนักงานเอไอเอสได้ใช้งาน Microsoft Teams ในการติดต่อสื่อสารระหว่างแผนก, การรับส่งไฟล์ระหว่างกัน ที่สามารถส่งได้ตั้งแต่ไฟล์ขนาดเล็กไปจนถึงไฟล์ขนาดใหญ่โดยไม่มีข้อจำกัด การประชุมทางไกลและแชร์หน้าจอร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้สถานที่ห้องประชุมหรือเดินทางระหว่างตึกมาหากัน พร้อมให้ใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็นพีซี โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต นอกจากนี้ เอไอเอสยังได้มอบระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ ไมโครซอฟท์ วันไดรฟ์ ความจุ 1 TB ให้กับพนักงานทุกคนใช้งานฟรี เพื่อใช้สำรองข้อมูลบนระบบคลาวด์ ให้สามารถเรียกใช้งานและเข้าถึงได้ตลอดเวลา

ซึ่งตลอดช่วงต้นปี 2563 เอไอเอสได้จัดกิจกรรมสื่อสารภายในองค์กรผ่านการอบรมการใช้งาน ให้พนักงานสามารถใช้ศักยภาพของเครื่องมือจากไมโครซอฟท์ในการทำงานวันต่อวันได้เต็มที่ผ่านไมโครซอฟท์ ทีมส์ โดยนอกจากการฝึกสอนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มภายใน LearnDi ให้สามารถเข้าถึงพนักงานได้อย่างทั่วถึง ทีมงานของเอไอเอสยังเฟ้นหาพนักงานดาวเด่นที่มีความเข้าใจในเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ลึกซึ้งเป็นพิเศษ เพื่อให้มีบทบาทเป็น “ซูเปอร์ยูสเซอร์” (superuser) พร้อมแบ่งปันความรู้ความเข้าใจให้เพื่อนพนักงานด้วยกัน และช่วยแบ่งเบาหน้าที่ในด้านการสนับสนุนผู้ใช้แบบวันต่อวันที่ทีมงานฝ่ายไอทีต้องรับมือ

จากการเตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ต้นนับแต่สถานการณ์ยังไม่รุนแรง ทำให้พนักงานเอไอเอสมีความคุ้นเคยกับการใช้ไมโครซอฟท์ ทีมส์ ​พอสมควร ดังนั้น เมื่อจำเป็นต้องปรับตัว Work From Home กันอย่างปัจจุบันทันด่วน คนเอไอเอสก็พร้อมนำเครื่องมือดังกล่าวมาต่อยอดใช้งานทันที โดยเฉพาะ ไมโครซอฟท์ ทีมส์ ที่เข้ามาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักของเรา ให้สามารถประชุมงานร่วมกันได้แม้จะอยู่ต่างสถานที่กัน และยังสามารถขยายศักยภาพของแพลตฟอร์มไปสู่การประยุกต์ใช้งานอย่างสร้างสรรค์ เช่นการจัดสัมภาษณ์พิเศษผู้บริหารให้กับสื่อมวลชนเข้ามาสัมภาษณ์ผ่านไมโครซอฟท์ ทีมส์ ที่รองรับผู้เข้าร่วมกลุ่มได้สูงสุดถึง 250 คน ได้มาตรฐานและมั่นใจในความปลอดภัยข้อมูล ซึ่งมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้งานในสถานการณ์ที่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคมเช่นในปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของไมโครซอฟท์ ทีมส์ ที่ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบบริการให้กับลูกค้าได้อย่างไม่มีสะดุด

ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 กำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ไปอย่างสิ้นเชิง เป็นสัญญาณว่า Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบได้เกิดขึ้นแล้ว โดยไม่รอให้เราได้ต่อรองอีกต่อไป อย่างเช่นการทำงานก็จะไม่ถูกจำกัดด้วยสถานที่อีกแล้ว แต่จะอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ของทุกคน การมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพช่วยเสริมศักยภาพการทำงานในยุคดิจิทัลจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเอไอเอสพร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานได้นำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในรูปแบบที่สร้างสรรค์ เพื่อเสริมศักยภาพการทำงานตั้งแต่วันนี้และในอนาคต”