Surface และ Microsoft 365 เปิดประตูสู่ชีวิตการทำงานที่ “เลือกได้” แบบไฮบริด
ผ่านมาเกือบสามปีแล้ว กับชีวิตการทำงานแบบผสมผสาน หรือ Hybrid Work ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตของคนทำงานทั่วโลก จนเกิดเป็นโจทย์ให้ทั้งองค์กรและพนักงานต้องมาขบคิดกันอีกครั้ง เมื่อแรงกดดันจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ว่าวิถีชีวิตของคนทำงานจะเป็นไปในรูปไหน ยืดหยุ่นมากหรือน้อยอย่างไร
ในขณะที่บางองค์กรกำหนดนโยบายให้กลับมาทำงานในออฟฟิศกันอีกครั้ง บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เลือกที่จะให้พนักงานมาร่วมกำหนดทิศทางในการทำงานของตนเอง โดยคุณไปรมิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เจ้าหน้าที่อาวุโสจากฝ่ายจัดการดิจิทัลและประสบการณ์ผู้ใช้งาน บอกกับเราว่า “เราเปิดให้พนักงานได้เลือกใช้เทคโนโลยีทำงานในแบบที่เขาถนัด แทนที่จะกำหนดแนวทางลงไปโดยผู้บริหาร เพื่อหารูปแบบที่ลงตัวที่สุดสำหรับทุกคน”
# ไว้ใจคนทำงาน เพราะทำงานที่ไหนก็ได้งาน
แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจที่ทางผู้บริหารมีให้กับพนักงานทุกคน ในขณะที่องค์กรจำนวนมากทั่วโลกกลับยังมีความกังวล รู้สึกไม่มั่นใจว่าพนักงานที่อยู่นอกออฟฟิศจะทำงานได้เต็มที่เหมือนตอนที่เจอหน้ากันทุกวันหรือไม่
ทั้งนี้ ผลสำรวจล่าสุดของไมโครซอฟท์จากช่วงเดือนกันยายน 2022 ที่ครอบคลุมพนักงานและผู้บริหารจำนวน 20,000 คนใน 11 ประเทศ พร้อมด้วยข้อมูลที่เห็นได้จากการใช้งาน Microsoft 365 เทรนด์ในตลาดงานจาก LinkedIn และงานวิจัยจากสถาบัน Glint People Science เราพบว่าพนักงานถึง 87% ที่เข้าร่วมการสำรวจรู้สึกว่าตัวเองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีในยุคไฮบริด แต่ผู้นำกว่า 85% กลับยังขาดความมั่นใจในประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในรูปแบบไฮบริด และมีเพียง 12% เท่านั้นที่มีความมั่นใจเต็มร้อยว่าทีมของตนทำงานอย่างมีประสิทธิผล
ทุกวันนี้ พนักงานกว่า 4,000 คนของ ปตท.สผ. ทั้งที่สำนักงานใหญ่ สำนักงานสาขา และ offshore สามารถทำงานแบบไฮบริดเต็มตัวได้จากทุกสถานที่ด้วยดีไวซ์จากตระกูล Surface ที่เปิดให้พนักงานเลือกใช้งานในหลากหลายรูปแบบ รับกับโจทย์และวิถีการทำงานของแต่ละบุคคล พร้อมด้วย Microsoft 365 แบบเต็มระบบ โดยคุณไปรมิศร์เผยว่าพนักงานของบริษัทเลือกทำงานจากที่ไหนก็ได้ พร้อมเช็กอินเพื่อแจ้งว่าเข้าหรือไม่เข้าออฟฟิศ และเลือกเปลี่ยนที่ทำงานได้วันละครั้ง เช่น ช่วงเช้าเข้าออฟฟิศ ขณะที่ช่วงสายย้ายกลับมาที่บ้าน จึงทำให้ตอบโจทย์ด้านความยืดหยุ่นในชีวิตได้ดี และยังรับรู้ได้ว่าเพื่อนร่วมงานอยู่ที่ไหน ทำงานอย่างไรกันบ้าง
คุณไปรมิศร์กล่าวอีกว่า “เรามองว่าอุปกรณ์ที่ทันสมัยจะช่วยกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงและปรับตัว จึงได้มีการนำอุปกรณ์ Surface จากไมโครซอฟท์มาใช้ในการทำงาน ซึ่งช่วยให้ทุกคนปรับตัวไปสู่การทำงานแบบ remote work หรือทำงานจากที่ไหนก็ได้ ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนทางผู้บริหารก็ใช้ฟังก์ชั่น Live event หรือการแพร่ภาพสดบน Microsoft Teams มาสื่อสารกับพนักงานในทุกๆ เดือนหรือเมื่อต้องการ”
# ออฟฟิศไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นผู้คน
หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในโลกยุค hybrid work คือความคาดหวังในเรื่องของสถานที่ทำงาน เพราะผลสำรวจของไมโครซอฟท์เผยว่าพนักงานราว 73% และผู้บริหารถึง 78% คิดว่าการเข้าออฟฟิศไปทำงานต้องมีเหตุผลมากกว่าแค่เพราะระเบียบหรือนโยบายขององค์กร ในเมื่อประสิทธิภาพของการทำงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับออฟฟิศเหมือนแต่ก่อน
จากเทรนด์ล่าสุด เราพบว่าเหตุผลสำคัญที่จะทำให้พนักงานอยากเข้าออฟฟิศก็คือเพื่อนร่วมงานนั่นเอง โดย 84% บอกว่าอยากไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ และกว่า 85% ต้องการเสริมให้สมาชิกในทีมได้มีโอกาสสนิทสนมกันและทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น เหมือนในช่วงก่อนโควิด ขณะที่พนักงานราว 74% เติมเหตุผลง่ายๆ มาอีกข้อว่าขอแค่รู้ว่าเพื่อนเข้าออฟฟิศ พวกเขาก็อยากไปด้วยคนแล้ว ซึ่งสำหรับทาง ปตท.สผ. ทิศทางนี้ก็ไม่ต่างกัน
นอกจากเรื่องของการเข้าออฟฟิศ ความ “ไปไหนไปกัน” ของพนักงานในยุคไฮบริดก็ยังมีผลกับการนำเครื่องมือหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ด้วยเช่นกัน อย่างในกรณีของ ปตท.สผ. ที่ได้นำนโยบายทำงานจากที่ไหนก็ได้มาเป็นนโยบายถาวร เพื่อตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่แล้ว ยังได้นำวิธีการสื่อสารภายในองค์กรอย่าง Yammer และ SharePoint เข้ามาใช้งานร่วมกับดีไวซ์ตระกูล Surface โดยที่ไม่มีการมอบหมายหน้าที่ให้พนักงานคนไหนเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการเชียร์เพื่อนๆ ให้เข้ามาใช้ เพราะการใช้เทคโนโลยีจะมีประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้มองเห็นด้วยตัวเองว่าเทคโนโลยีนั้นแก้ไขปัญหาของเขาได้จริง และบอกต่อให้คนรอบข้างได้ประโยชน์ไปด้วยกัน
คุณไปรมิศร์เล่าอีกว่าในปัจจุบัน พนักงานของ ปตท.สผ. จำนวนมากได้รวมกลุ่มกันเปิดชมรมต่างๆ ขึ้นใน Yammer นับตั้งแต่กรุ๊ปสอนภาษาอังกฤษโดยพนักงานต่างชาติ กลุ่มนักวิ่งที่สมาชิกโชว์ความฟิตและความสดใสกันเป็นประจำ หรือจะตรงเข้าเรื่องงานกับกรุ๊ปถาม-ตอบเรื่องการใช้งาน Microsoft 365 ก็ยังได้ ส่วนบรรยากาศในออฟฟิศก็มีความคึกคักให้เห็นเรื่อยๆ เมื่อเพื่อนร่วมงานมือพรีเซนต์หลายคนถนัดที่จะเข้าร่วมประชุมที่ออฟฟิศ ผ่านอุปกรณ์อย่าง Surface Hub จอใหญ่ หรือ Teams Rooms ที่ทำให้ทุกคนเข้าประชุมได้แบบเต็มประสบการณ์ ไม่ว่าจะมาเจอหน้ากันหรือเข้าจากที่บ้าน ทำให้ออฟฟิศมีบรรยากาศที่ดีทั้งในแบบ online และ offline
# ยืดหยุ่นกว่า ราบรื่นกว่า เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของพนักงาน
อีกหนึ่งเทคนิคที่ทาง ปตท.สผ. นำมาใช้ในการหาจุดกึ่งกลางที่ลงตัวระหว่างเทคโนโลยีกับคนทำงาน คือการมุ่งเน้นประโยชน์ที่เกิดขึ้นจริง โดยคุณไปรมิศร์กล่าวว่า “ถ้าพนักงานได้ใช้เครื่องมือหรือฟีเจอร์บางส่วนให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ ก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกอย่างหรือบีบบังคับกัน ทุกอย่างจะเกิดประสิทธิผลสูงสุด เมื่อเครื่องมือตอบโจทย์ของพวกเขาจริงๆ”
ทาง ปตท.สผ. ได้เพิ่มทางเลือกและบริการดีๆ ที่ชนะใจพนักงานได้สำเร็จ เช่นระบบโทรศัพท์ของบริษัทที่เชื่อมเบอร์ 02 ที่โต๊ะของทุกคนเข้ากับ Microsoft Teams โดยตรง จึงสามารถโทรออกจาก Teams บนมือถือ หรือผ่าน Surface จากที่ไหนก็ได้เมื่อออนไลน์ และยังมี Surface หลากหลายรุ่นมาเป็นทางเลือกให้จับคู่กับโจทย์และความต้องการของพนักงานแต่ละคน มีทั้งความบางเบาคล่องตัวของ Surface Pro ความเรียบหรูที่คุ้นเคยพร้อมกล้องหน้ารับ hybrid work กับ Surface Laptop และพลังเต็มสมรรถนะแบบ Surface Book ส่วนบริการ Microsoft 365 ที่ครบเครื่อง ก็เติมความคล่องตัวที่เป็นประโยชน์กับพนักงานในทุกตำแหน่งและบทบาท ตั้งแต่การดึงข้อมูลจาก SharePoint ได้ตลอดเวลา ไปจนถึงการแก้ไขเอกสารพร้อมกันทั้งทีม (co-authoring) แบบเรียลไทม์
แนวคิดของ ปตท.สผ. ในการเพิ่มความยืดหยุ่น เปิดรับมุมมองจากคนทำงานตัวจริง ทำให้การทำงานยุคผสมผสาน ก้าวหน้าด้วยความสอดคล้องกันของทั้งอุปกรณ์ เครื่องมือการทำงาน และนโยบาย ถือเป็นแนวทางที่น่าสนใจไม่น้อย ท่ามกลางปรากฎการณ์ที่คนทำงานทั่วโลกเริ่มต้องการทางเลือกที่ประยุกต์ให้งานและชีวิตส่วนตัวเกิดความสมดุลมากที่สุด โดยหันมาดูแลตัวเองและครอบครัว หรือแม้แต่คิดอยากเป็นเจ้านายตัวเองกันมากขึ้น และยังสอดคล้องกับคำกล่าวของคุณสัตยา นาเดลลา ซีอีโอของไมโครซอฟท์ ที่ว่า “พนักงานที่ทำงานได้ดีและมีความสุขคือสิ่งที่จะทำให้องค์กรมีความได้เปรียบในการแข่งขัน ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”
คุณไปรมิศร์กล่าวปิดท้ายอีกว่า “ก้าวสำคัญสู่การทำให้ hybrid work เวิร์กได้จริงคือการเปิดกว้างและสร้างวัฒนธรรมที่ตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลาย สนับสนุนให้ทุกคนเลือกใช้เทคโนโลยีด้วยตัวเองโดยสมัครใจ และส่งเสริมผู้ใช้ที่ร่วมสร้างวัฒนธรรมการทำงานรูปแบบใหม่นี้ รวมทั้งเปิดให้เข้าถึงความช่วยเหลือเรื่อง hybrid workplace ได้แทบจะตลอดเวลา เพื่อให้พนักงานมั่นใจที่จะก้าวไปกับเรา”
สำหรับข้อมูลฉบับเต็มและบทสรุปอื่นๆ จากการสำรวจของไมโครซอฟท์ สามารถอ่านได้ ที่นี่ หรือค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับดีไวซ์ Surface ที่พร้อมตอบโจทย์หลากหลายในองค์กรของคุณได้ ที่นี่