ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มสวัสดิการวันลาเพื่อพนักงานที่มีความจำเป็นด้านครอบครัว ยกระดับความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว

 |   Thornthawat Thongnab

กรุงเทพฯ – 8 พฤษภาคม 2560 – ไมโครซอฟท์ ประกาศสวัสดิการวันลาสำหรับพนักงานที่มีความจำเป็นด้านครอบครัว โดยบริษัทจะจัดจ่ายเงินเดือนเต็ม 20 สัปดาห์ให้กับคุณแม่ที่ลาคลอดบุตร 6 สัปดาห์สำหรับคุณพ่อมือใหม่หรือผู้ปกครองที่อุปการะบุตรบุญธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และ 4 สัปดาห์สำหรับพนักงานที่ต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวที่มีอาการป่วยรุนแรง เพื่อพนักงานสามารถใช้เวลาอยู่กับบุคคลอันเป็นที่รักอย่างหมดกังวล สวัสดิการใหม่นี้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นไป

นางสาวชุติมา สีบำรุงสาสน์, ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “พันธกิจหลักของไมโครซอฟท์คือ การเป็นกำลังสำคัญให้กับทุกคนและทุกองค์กรบนโลกใบนี้ให้บรรลุผลสำเร็จได้มากกว่า ซึ่งการทำให้พันธกิจนี้บรรลุผลสำเร็จจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าปราศจากพนักงานของเราที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถให้กับองค์กรฯ ในเวลาเดียวกัน บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่พนักงานของเรา โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการประเมิน ปรับปรุง และเพิ่มพูนสวัสดิการที่ดีให้แก่พนักงาน บริษัทตระหนักดีว่าทุกคนย่อมมีช่วงเวลาที่ครอบครัวจะเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องให้ความสำคัญ ดังนั้นเราจึงต้องการให้พนักงานสามารถใช้เวลาในช่วงสำคัญนี้ดูแลคนที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา”

เพื่อให้คุณพ่อและคุณแม่คนใหม่มีเวลาอย่างเพียงพอที่จะสร้างสายใยความผูกพันกับลูก ไม่ว่าจะเป็นบุตรทางสายเลือดหรือบุตรบุญธรรม ไมโครซอฟท์จึงเพิ่มวันลาสำหรับคุณแม่ที่คลอดบุตรจาก 12 สัปดาห์ เป็น 20 สัปดาห์ และสำหรับคุณพ่อหรือคุณแม่จากการรับบุตรบุญธรรมจาก 3 วัน เป็น 6 สัปดาห์ โดยได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนตลอดระยะวันลา

นางสาวโดมหทัย บุนนาค, Channel Executive แลว่าที่คุณแม่ลูก 2 กล่าวว่า “ ดีใจที่ไมโครซอฟท์มีสวัสดิการใหม่นี้ ทำให้มีความเชื่อมั่นกับทีมผู้บริหารและทิศทางการบริหารของบริษัทฯ ที่ทำให้นโยบายการสร้างความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวรวมทั้งการเปิดรับและปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เป็นเพียงแค่นโยบายที่ไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริง นอกจากคู่ที่เป็นผู้ชายและผู้หญิงจะได้รับสวัสดิการนี้แล้ว พ่อและแม่ที่เป็นเพศเดียวกันยังได้รับสวัสดิการนี้ด้วย ซึ่งเราชอบนโยบายที่ก้าวหน้าของบริษัทอันนี้มาก มันเปิดรับต่อความแตกต่างและหลากหลายของบริษัทฯ”

“โดยส่วนตัว รู้สึกทั้งดีใจ และโล่งใจค่ะ เพราะประสบการณ์หลังจากที่มีลูกคนแรก และกลับมาทำงานหลังจากพักไป 3 เดือน มีความรู้สึกว่าประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากว่าต้องปรับตัวครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต อดหลับอดนอน ทุก 3-4 ชั่วโมง ต้องวิ่งไปปฏิบัติภารกิจแม่ๆ ทำให้อาชีพที่เป็น sales แบบเราต้องขาดตอน ซึ่งก็ส่งผลกระทบทำให้เราเครียด และความเครียดตามเราไปถึงที่บ้านตอนที่เลี้ยงลูก สรุปว่าทำอะไรไม่ได้ดีซักอย่าง ครั้งนี้รู้ว่าเรามีเวลาที่จะปรับตัวและโฟกัสเรื่องลูกและสุขภาพตัวเองถึง 5 เดือน และเป็นลูกคนที่ 2 ด้วย จึงรู้สึกสบายใจโล่งใจขึ้นเยอะค่ะ ว่า เมื่อถึงเวลาเราน่าจะทำหน้าที่ทั้งแม่และพนักงานบริษัทได้ดีทั้ง 2 บทบาท และการที่บริษัทให้เงินเดือนเต็ม 5 เดือนก็หมายความว่าเราไม่ต้องกังวลว่าเราจะขาดรายได้อีกด้วย ทำให้รู้สึกว่านโยบายใหม่นี้เป็นอีกหนึ่งเหตุผล ที่ทำให้ไมโครซอฟท์เป็น A Great Place To Work จริงๆ ค่ะ” นางสาวโดมหทัยกล่าวเสริม

นายอุดม ตรัสบวร Account Manager และคุณพ่อมือใหม่กล่าวว่า “สวัสดิการใหม่นี้จะช่วยพนักงานที่มีความจำเป็นและต้องการที่จะใช้เวลากับครอบครัวอย่างเต็มที่ ลูกสาวเพิ่งจะมีอายุได้ 1 เดือนกว่า ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ยากมากสำหรับผมและภรรยา ผมต้องช่วยดูแลลูกและทำงานด้วย ถึงแม้ว่าจะสามารถทำงานที่บ้านได้ก็ตาม ซึ่งหากมีสวัสดิการนี้เข้ามาในช่วงเวลานั้น ก็น่าจะลดความกังวลเรื่องงานและช่วยภรรยาเลี้ยงลูกได้เต็มที่ ซึ่งตอนนี้ผมและภรรยาไม่กลัวจะมีลูกคนที่ 2 แล้ว”

นายกฤษฏิ์ คำตื้อ Technical Evangelist ผู้กำลังจะสละโสดและสร้างครอบครัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ กล่าวว่า “รู้สึกคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าไมโครซอฟท์จะออกสวัสดิการนี้มา ดีใจที่ไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของทุกอย่าง ในฐานะของคนที่กำลังจะสร้างครอบครัวและคิดว่าจะต้องได้ใช้สวัสดิการใหม่นี้แน่นอนในอนาคต ผมและว่าที่ภรรยารู้สึกโชคดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรฯ และขอบคุณผู้บริหารที่ได้ให้สวัสดิการดีๆ แบบนี้กับพนักงานครับ”

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้เพิ่มสวัสดิการให้กับพนักงานที่มีความจำเป็นต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวที่มีความจำเป็นที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดที่บ้าน โดยกำหนดให้พนักงานสามารถลาได้ 4 สัปดาห์ โดยได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน[1]

รัชฎาวรรณ สุดแสง Partner Sales Lead ผู้เคยมีประสบการณ์ดูแลบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งมาก่อน กล่าวว่า “เมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณแม่จากไปด้วยโรคมะเร็ง ตอนที่ตรวจเจอ อยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว ซึ่งคุณหมอบอกว่าคุณแม่น่าจะอยู่ได้ไม่นาน ก็เลยตัดสินใจขอทำงานที่บ้านเพื่อดูแลคุณแม่ด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ และใช้เวลาที่เหลือร่วมกับท่านอย่างคุ้มค่า ดีใจและขอบคุณไมโครซอฟท์มากที่ให้โอกาสเราให้สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ซึ่งเป็นระยะเวลาประมาณ 8 เดือนจนกระทั่งคุณแม่จากไป ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็เครียดและเหนื่อยมาก เพราะกังวลทั้งเรื่องงานและต้องการจะดูแลแม่ให้ดีที่สุดด้วย ส่วนตัวมั่นใจว่าสวัสดิการใหม่นี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่ต้องดูแลคนในครอบครัวในยามที่สมาชิกเจ็บป่วยและต้องการคุณมากที่สุด เพราะเราจะสามารถโฟกัสกับคนที่เรารักได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาชีพ”

“เราหวังว่าสวัสดิการที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้จะแสดงให้พนักงานของเราเห็นว่า ไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญและใส่ใจกับพวกเขามากเพียงใด เราต้องการให้พนักงานสามารถปรับตัวในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างเหมาะสมเพื่อเอื้ออำนวยให้พวกเขามีชีวิตส่วนตัวที่ดียิ่งขึ้น” นางสาวชุติมา สีบำรุงสาสน์ กล่าวสรุป

[1]  ครอบครัวรวมถึงคู่สมรส, คู่สมรสเพศเดียวกัน, ผู้ปกครองที่มีสิทธิ์เลี้ยงดูบุตร, ผู้ปกครองที่ไม่ได้รับสิทธิ์เลี้ยงดูบุตร, พ่อแม่บุญธรรม, พ่อแม่โดยสายโลหิต, พ่อแม่สามี/ภรรยา, พ่อแม่คู่สมรสเพศเดียวกัน, พี่น้อง, ตายาย/ปู่ย่า, หลานของพนักงาน, หรือบุคคลที่อยู่ในอุปการะของพนักงาน